วิธีแก้ไขปัญหารหัสข้อผิดพลาดด้านความปลอดภัยบนเว็บไซต์ที่ปลอดภัย

Firefox Firefox สร้างเมื่อ: 92% of users voted this helpful

สำหรับเว็บไซต์ที่ควรจะปลอดภัย (URL ขึ้นต้นด้วย "https://") นั้น Firefox จะต้องตรวจสอบว่าใบรับรองที่เว็บไซต์เสนอมานั้นถูกต้อง หากไม่สามารถตรวจสอบใบรับรองได้ Firefox จะหยุดเชื่อมต่อไปยังเว็บไซต์และแสดงหน้าข้อผิดพลาด "คำเตือน: ความเสี่ยงด้านความปลอดภัยที่อาจเกิดขึ้นข้างหน้า" แทน ซึ่งคุณสามารถดูข้อผิดพลาดเจาะจงที่ Firefox พบได้ด้วยการคลิกปุ่ม ขั้นสูง

บทความนี้จะอธิบายถึงสาเหตุที่คุณอาจเห็นรหัสข้อผิดพลาด SEC_ERROR_UNKNOWN_ISSUER, MOZILLA_PKIX_ERROR_MITM_DETECTED หรือ ERROR_SELF_SIGNED_CERT บนหน้าข้อผิดพลาดและวิธีแก้ไขปัญหาดังกล่าว

สำหรับรหัสข้อผิดพลาดอื่นๆ บนหน้าข้อผิดพลาด "คำเตือน: ความเสี่ยงด้านความปลอดภัยที่อาจเกิดขึ้นข้างหน้า" ให้ดูที่บทความ รหัสคำเตือนด้านความปลอดภัยหมายความว่าอย่างไร? สำหรับหน้าข้อผิดพลาด การเชื่อมต่อปลอดภัยล้มเหลว หรือ ไม่ได้เชื่อมต่อ: ปัญหาความปลอดภัยที่อาจเกิดขึ้น ให้ดูที่บทความ การเชื่อมต่อปลอดภัยล้มเหลวและ Firefox ไม่ได้เชื่อมต่อ

รหัสข้อผิดพลาดนี้หมายความว่าอย่างไร?

ระหว่างการเชื่อมต่อปลอดภัย เว็บไซต์จะต้องจัดเตรียมใบรับรองที่ออกโดยผู้ออกใบรับรองเพื่อให้แน่ใจว่าผู้ใช้จะถูกเชื่อมต่อไปยังเป้าหมายตามที่ตั้งไว้และการเชื่อมต่อจะถูกเข้ารหัส หากคุณคลิกที่ปุ่ม ขั้นสูง บนหน้าข้อผิดพลาด "คำเตือน: ความเสี่ยงด้านความปลอดภัยที่อาจเกิดขึ้นข้างหน้า" แล้วเห็นรหัสข้อผิดพลาด SEC_ERROR_UNKNOWN_ISSUER หรือ MOZILLA_PKIX_ERROR_MITM_DETECTED แสดงว่าใบรับรองที่จัดเตรียมมาให้นั้นถูกออกโดยผู้ออกใบรับรองที่ Firefox ไม่รู้จัก จึงไม่สามารถเชื่อถือได้โดยค่าเริ่มต้น

Fx66WarningSEC_ERROR_UNKNOWN_ISSUER

ข้อผิดพลาดเกิดขึ้นบนไซต์ที่ปลอดภัยหลายไซต์

หากคุณพบปัญหานี้บนไซต์ HTTPS ที่ไม่เกี่ยวข้องหลายไซต์ แสดงว่ามีบางอย่างบนระบบหรือเครือข่ายของคุณสกัดกั้นการเชื่อมต่อและใส่ใบรับรองที่ Firefox ไม่เชื่อถือ สาเหตุที่พบบ่อยสุดมักได้แก่ซอฟต์แวร์ความปลอดภัยสแกนการเชื่อมต่อที่เข้ารหัส หรือมีมัลแวร์แอบดักฟังและแทนที่ใบรับรองเว็บไซต์ที่ถูกต้องด้วยใบรับรองที่มากับมัลแวร์ โดยเฉพาะรหัสข้อผิดพลาด MOZILLA_PKIX_ERROR_MITM_DETECTED ซึ่งบ่งบอกว่า Firefox ตรวจพบการสกัดกั้นการเชื่อมต่อ

ผลิตภัณฑ์ป้องกันไวรัส

ซอฟต์แวร์ป้องกันไวรัสจากบุคคลที่สามอาจขัดจังหวะการเชื่อมต่อปลอดภัยของ Firefox ได้ ซึ่งคุณสามารถลองติดตั้งซอฟต์แวร์ดังกล่าวใหม่ได้ ซึ่งอาจกระตุ้นให้ซอฟต์แวร์นำใบรับรองของซอฟต์แวร์ไปวางไว้ในที่เก็บที่เชื่อถือได้ของ Firefox อีกครั้ง

เราขอแนะนำให้ถอนการติดตั้งซอฟต์แวร์จากบุคคลที่สามและใช้ซอฟต์แวร์ความปลอดภัยสำหรับ Windows จาก Microsoft:

หากคุณไม่ต้องการถอนการติดตั้งซอฟต์แวร์จากบุคคลที่สาม คุณสามารถลองติดตั้งซอฟต์แวร์ดังกล่าวใหม่ได้ ซึ่งอาจกระตุ้นให้ซอฟต์แวร์นำใบรับรองของซอฟต์แวร์ไปวางไว้ในที่เก็บที่เชื่อถือได้ของ Firefox อีกครั้ง

คุณสามารถลองแก้ไขปัญหาด้วยวิธีอื่นๆ ต่อไปนี้ได้:

Avast/AVG

ในผลิตภัณฑ์ความปลอดภัย Avast หรือ AVG คุณสามารถปิดใช้งานการสกัดกั้นการเชื่อมต่อปลอดภัยได้ด้วยวิธีต่อไปนี้:

  1. เปิดแดชบอร์ดของแอปพลิเคชัน Avast หรือ AVG
  2. ไปที่ เมนู แล้วคลิกที่ ตั้งค่า > การปกป้อง > ระบบป้องกันหลัก
  3. เลื่อนลงไปที่ส่วน กำหนดการตั้งค่าระบบป้องกัน แล้วคลิกที่ ระบบป้องกันเว็บ
  4. เอาเครื่องหมายหน้า เปิดใช้งานการสแกน HTTPS ออก แล้วยืนยันการเปลี่ยนแปลงนี้ด้วยการคลิก ตกลง
    ในรุ่นเก่าของผลิตภัณฑ์ คุณจะพบตัวเลือกที่สอดคล้องกันเมื่อคุณไปที่ เมนู > ตั้งค่า > คอมโพเนนต์ แล้วคลิก ปรับแต่ง ถัดจาก ระบบป้องกันเว็บ

ดูที่บทความช่วยเหลือของ Avast Managing HTTPS scanning in Web Shield in Avast Antivirus สำหรับรายละเอียด ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับคุณลักษณะนี้มีอยู่บน Avast Blog นี้

Bitdefender

ในผลิตภัณฑ์ความปลอดภัย Bitdefender คุณสามารถปิดใช้งานการสกัดกั้นการเชื่อมต่อปลอดภัยได้ด้วยวิธีต่อไปนี้:

  1. เปิดแดชบอร์ดของแอปพลิเคชัน Bitdefender
  2. ไปที่ Protection แล้วคลิกที่ Settings ในส่วน Online Threat Prevention
  3. ปิดใช้การตั้งค่า Encrypted Web Scan
    ในรุ่นเก่าของผลิตภัณฑ์ คุณสามารถพบตัวเลือกที่สอดคล้องกันชื่อ Scan SSL ได้เมื่อคุณไปที่ Modules > Web Protection

ใน Bitdefender Antivirus Free คุณไม่สามารถควบคุมการตั้งค่านี้ได้ คุณสามารถลองซ่อมแซมหรือลบโปรแกรมออกแทนได้เมื่อคุณมีปัญหาในการเข้าถึงเว็บไซต์ที่ปลอดภัย

สำหรับผลิตภัณฑ์ Bitdefender สำหรับบริษัท โปรดดูที่หน้า Bitdefender Support Center นี้

Bullguard

ในผลิตภัณฑ์ความปลอดภัย Bullguard คุณสามารถปิดใช้งานการสกัดกั้นการเชื่อมต่อปลอดภัยบนเว็บไซต์หลักๆ อย่างเช่น Google, Yahoo และ Facebook ได้ด้วยวิธีต่อไปนี้:

  1. เปิดแดชบอร์ดของแอปพลิเคชัน Bullguard
  2. คลิกที่ Settings แล้วเปิดใช้งานมุมมอง Advanced บริเวณมุมขวาบนของแผง
  3. ไปที่ Antivirus > Safe browsing
  4. เอาเครื่องหมายหน้าตัวเลือก Show safe results ออกสำหรับเว็บไซต์ที่แสดงข้อความระบุข้อผิดพลาด

ESET

ในผลิตภัณฑ์ความปลอดภัย ESET คุณสามารถลองปิดแล้วเปิดใช้งาน การกรองโปรโตคอล SSL/TLS ใหม่ตามที่อธิบายไว้ในบทความช่วยเหลือของ ESET ได้

Kaspersky

ผู้ใช้ Kaspersky ที่ได้รับผลกระทบควรอัปเกรดไปใช้ผลิตภัณฑ์ความปลอดภัยรุ่นล่าสุด เพราะ Kaspersky 2019 ขึ้นไปมีการบรรเทาความเสี่ยงสำหรับปัญหานี้ ซึ่งหน้าดาวน์โหลดของ Kaspersky จะมีลิงก์ "อัปเดต" ที่จะติดตั้งรุ่นล่าสุดโดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายสำหรับผู้ใช้ที่สมัครสมาชิกในปัจจุบัน

หรือคุณยังสามารถปิดใช้งานการสกัดกั้นการเชื่อมต่อปลอดภัยได้ด้วยวิธีต่อไปนี้:

  1. เปิดแดชบอร์ดของแอปพลิเคชัน Kaspersky
  2. คลิกที่ การตั้งค่า บริเวณมุมซ้ายล่าง
  3. คลิก เพิ่มเติม แล้วคลิก เครือข่าย
  4. ในส่วน การสแกนการเชื่อมต่อที่ปลอดภัย ให้กาเครื่องหมายหน้าตัวเลือก ห้ามสแกนการเชื่อมต่อที่ปลอดภัย แล้วยืนยันการเปลี่ยนแปลงนี้
  5. ท้ายที่สุด เริ่มต้นระบบของคุณใหม่เพื่อให้การเปลี่ยนแปลงมีผล

การตั้งค่า Family Safety ในบัญชีผู้ใช้ Windows

ในบัญชีผู้ใช้ Microsoft Windows ที่ได้รับความคุ้มครองจากการตั้งค่า Family Safety การเชื่อมต่อปลอดภัยบนเว็บไซต์ที่นิยม เช่น Google, Facebook และ YouTube อาจถูกสกัดกั้นและแทนที่ใบรับรองของเว็บไซต์เหล่านั้นด้วยใบรับรองที่ออกโดย Microsoft เพื่อกรองและบันทึกกิจกรรมการค้นหา

อ่าน หน้าคำถามที่พบบ่อย Microsoft นี้เกี่ยวกับวิธีปิดคุณลักษณะครอบครัวเหล่านี้สำหรับบัญชีผู้ใช้ต่างๆ หากคุณต้องการติดตั้งใบรับรองที่ขาดไปสำหรับบัญชีผู้ใช้ที่ได้รับผลกระทบด้วยตัวเอง คุณสามารถดูที่บทความช่วยเหลือของ Microsoft นี้ได้

การเฝ้าสังเกต/การกรองในเครือข่ายบริษัท

ผลิตภัณฑ์เฝ้าสังเกต/กรองการรับส่งข้อมูลบางอย่างที่ใช้ในสภาพแวดล้อมของบริษัทอาจสกัดกั้นการเชื่อมต่อที่เข้ารหัสด้วยการแทนที่ใบรับรองของเว็บไซต์ด้วยใบรับรองของผลิตภัณฑ์เหล่านั้น ซึ่งในขณะเดียวกันก็อาจกระตุ้นให้เกิดข้อผิดพลาดต่างๆ บนไซต์ HTTPS ที่ปลอดภัยได้

หากคุณสงสัยว่าข้อผิดพลาดอาจเกิดจากสาเหตุนี้ โปรดติดต่อแผนก IT ของคุณเพื่อตรวจสอบการกำหนดค่าปัจจุบันของ Firefox ให้แน่ใจว่าได้เปิดใช้งานให้ทำงานอย่างถูกต้องในสภาพแวดล้อมดังกล่าว เพราะใบรับรองที่จำเป็นอาจจะต้องถูกนำไปวางในที่เก็บที่เชื่อถือได้ของ Firefox ก่อน สำหรับแผนก IT สามารถพบข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับวิธีทำดังกล่าวได้ในหน้า Mozilla Wiki CA:AddRootToFirefox

มัลแวร์

มัลแวร์บางรูปแบบที่สกัดกั้นการรับส่งข้อมูลเว็บที่เข้ารหัสอาจเป็นสาเหตุให้เกิดข้อความระบุข้อผิดพลาดนี้ได้ ให้ดูที่บทความ แก้ไขปัญหา Firefox ที่เกิดจากมัลแวร์ เกี่ยวกับวิธีรับมือกับปัญหามัลแวร์

ข้อผิดพลาดเกิดขึ้นเฉพาะบนไซต์เดียวเท่านั้น

หากคุณพบปัญหานี้เฉพาะบนไซต์เดียวเท่านั้น โดยทั่วไปแล้วข้อผิดพลาดชนิดนี้จะบ่งบอกว่าเว็บเซิร์ฟเวอร์ไม่ได้ถูกกำหนดค่าอย่างถูกต้อง อย่างไรก็ตาม หากคุณเห็นข้อผิดพลาดนี้บนเว็บไซต์หลักๆ เช่น Google, Facebook หรือไซต์ที่ใช้ทำธุรกรรมทางการเงิน คุณควรทำตามขั้นตอนที่กล่าวมาด้านบน

ใบรับรองที่ออกโดยผู้ออกเป็นของ Symantec

หลังจากที่ความผิดปกติของใบรับรองที่ออกโดยผู้ออกใบรับรองหลักของ Symantec ถูกพบอย่างแพร่หลาย ผู้จำหน่ายเบราว์เซอร์รวมถึง Mozilla ก็ได้ค่อยๆ เอาความน่าเชื่อถือออกจากใบรับรองเหล่านี้ในผลิตภัณฑ์ของตัวเอง ด้วยเหตุนี้ Firefox จะไม่เชื่อถือใบรับรองเซิร์ฟเวอร์ที่ออกโดย Symantec รวมถึงใบรับรองเซิร์ฟเวอร์ที่ออกภายใต้แบรนด์ GeoTrust, RapidSSL, Thawte และ Verisign อีก สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม ให้ดูที่โพสต์ในบล็อกของ Mozilla นี้

MOZILLA_PKIX_ERROR_ADDITIONAL_POLICY_CONSTRAINT_FAILED จะเป็นข้อผิดพลาดหลัก แต่ในบางเซิร์ฟเวอร์ คุณอาจเห็นรหัสข้อผิดพลาด SEC_ERROR_UNKNOWN_ISSUER แทน หากคุณเข้าดูไซต์ดังกล่าว คุณควรติดต่อเจ้าของเว็บไซต์เพื่อแจ้งปัญหานี้ให้ทราบ

Mozilla ส่งเสริมเป็นอย่างยิ่งให้ผู้ดำเนินการของไซต์ที่ได้รับผลกระทบดำเนินการแทนที่ใบรับรองเหล่านี้ทันที ซึ่ง DigiCert ได้จัดเตรียมใบรับรองที่ใช้แทนได้โดยไม่มีค่าใช้จ่าย

ใบรับรองระดับกลางขาดหายไป

บนไซต์ที่ใบรับรองระดับกลางขาดหายไป คุณจะเห็นคำอธิบายข้อผิดพลาดต่อไปนี้หลังจากที่คุณคลิกที่ ขั้นสูง บนหน้าข้อผิดพลาดแล้ว:

ใบรับรองไม่น่าเชื่อถือเพราะรับรองโดยผู้รับรองนิรนาม
เซิร์ฟเวอร์อาจไม่ส่งใบรับรองระดับกลางที่เหมาะสม
อาจต้องนำเข้าใบรับรองรากเพิ่มเติม

ใบรับรองของเว็บไซต์อาจไม่ได้ถูกออกโดยผู้ออกใบรับรองที่เชื่อถือได้เองและไม่มีสายใบรับรองที่สมบูรณ์ใดสำหรับผู้ออกที่เชื่อถือได้ที่ถูกจัดเตรียม (สิ่งที่เรียกว่า "ใบรับรองระดับกลาง" ขาดหายไป)
คุณสามารถทดสอบดูได้ว่าไซต์ถูกกำหนดค่าอย่างถูกต้องหรือไม่ด้วยการใส่ที่อยู่ของเว็บไซต์ลงในเครื่องมือจากบุคคลที่สามอย่างเช่น SSL Labs' test page หากเครื่องมือให้ผลลัพธ์ "Chain issues: Incomplete" แสดงว่าใบรับรองระดับกลางที่เหมาะสมนั้นขาดหายไป คุณควรติดต่อเจ้าของเว็บไซต์ที่คุณมีปัญหาในการเข้าถึงเพื่อแจ้งให้ทราบเกี่ยวกับปัญหานั้น

ใบรับรองที่ออกโดยเจ้าของเว็บไซต์เอง

บนไซต์ที่มีใบรับรองที่ออกโดยเจ้าของเว็บไซต์เอง คุณจะเห็นรหัสข้อผิดพลาด ERROR_SELF_SIGNED_CERT และคำอธิบายข้อผิดพลาดต่อไปนี้หลังจากที่คุณคลิกที่ ขั้นสูง บนหน้าข้อผิดพลาดแล้ว:

ใบรับรองไม่ได้รับความเชื่อถือเนื่องจากเป็นการออกใบรับรองโดยเจ้าของเว็บไซต์เอง

ใบรับรองที่ออกโดยเจ้าของเว็บไซต์เองซึ่งไม่ได้ออกโดยผู้ออกใบรับรองที่รู้จักจะไม่ได้รับความเชื่อถือตามค่าเริ่มต้น ใบรับรองที่ออกโดยเจ้าของเว็บไซต์เองอาจช่วยปกป้องข้อมูลของคุณให้ปลอดภัยจากผู้แอบฟัง แต่ไม่ระบุข้อมูลเกี่ยวกับบุคคลที่เป็นผู้รับข้อมูลนี้ ซึ่งถือเป็นเรื่องปกติสำหรับเว็บไซต์อินทราเน็ตที่ไม่มีให้ใช้ในสาธารณะ และคุณก็อาจข้ามผ่านคำเตือนดังกล่าวสำหรับไซต์เหล่านั้นไปได้เลย

การข้ามผ่านคำเตือน

คำเตือน: คุณไม่ควรเพิ่มข้อยกเว้นใบรับรองให้กับเว็บไซต์หลักๆ หรือไซต์ที่ใช้ทำธุรกรรมทางการเงิน เพราะในกรณีนี้ใบรับรองที่ไม่ถูกต้องอาจบ่งบอกได้ว่าการเชื่อมต่อของคุณถูกล่วงละเมิดโดยบุคคลที่สาม

หากเว็บไซต์ยอมให้เกิดคำเตือนดังกล่าว คุณสามารถข้ามผ่านคำเตือนเพื่อที่จะเยี่ยมชมไซต์ได้ถึงแม้ว่าใบรับรองของไซต์จะยังไม่ได้รับความเชื่อถือตามค่าเริ่มต้นก็ตาม:

  1. คลิก ขั้นสูง บนหน้าคำเตือน
  2. คลิก ยอมรับความเสี่ยงและดำเนินการต่อ

บทความนี้เป็นประโยชน์หรือไม่?

โปรดรอสักครู่...

These fine people helped write this article:

Illustration of hands

อาสาสมัคร

เพิ่มพูนและแบ่งปันความเชี่ยวชาญของคุณกับคนอื่น ๆ รวมถึงตอบคำถามและปรับปรุงฐานความรู้ของเรา

เรียนรู้เพิ่มเติม